Thursday, November 26, 2009

คงจะเป็นกรรมของผม ที่เกิดมาอยากเรียนรู้ตลอดเวลา


คงจะเป็นกรรมของผม ที่เกิดมาอยากเรียนรู้ตลอดเวลา

เช้าวันหนึ่ง เพื่อนเก่าของผมได้โทรมาถามผมว่าชีวิตผมที่ลำปางเป็นอย่างไรบ้าง ที่แปลกใจยิ่งกว่าก็คือเพื่อนถามผมว่าเหตุใดถึงมาทำงานซะไกลและรับเงินเดือนที่น้อยกว่าเดิมถึงเกือบสิบเท่าตัว(ที่หาได้จากการทำธุรกิจ)......คำตอบคงจะไม่ง่ายสำหรับคนที่เคยชินกับการทำงานอยู่ใจกลางเมือง บนตึกสูงเกือบห้าสิบชั้น ทานอาหารดีดีในห้าง หรือเคยเดินบนถนนระดับโลกอย่าง ชอง ซาลิเซ่ มิลาน หรือ โมนาโค แต่สำหรับผมนั้นเคยเป็นเด็กวัดจนๆมาแล้วเมื่อครั้นตกอับ คำตอบก็ไม่ยาก แค่ตอบว่าความพอใจอยู่ที่ไหน
สิ่งที่ผมตอบกับเพื่อนในวันนั้นก็คือ “จะมีอาชีพไหนดีกว่านี้อีก มีคนมาจ้างให้ฉลาดขึ้น” ยิ่งไปกว่านั้น คงเป็นกรรมที่ติดตัวผมมาแต่กำเนิด ที่ผมเกิดมาอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลา เรื่องไหนที่ไม่เคยทำก็จะลองทำให้จงได้ และเรื่องที่อยากทำมันดันเป็นอุดมคติซะแล้ว ดังนั้น ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ เมื่อมันมีกันจนอิ่มตัวแล้วจะเอาไปทำอะไรก็คงจะไม่มีความหมาย ความรู้ ความดีต่างหากที่ผมยังหาไม่เจอ กรรมของผมแท้ๆที่เกิดมาอยากรู้.............

การจัดทำ Working Group ทางวิชาการของนักศึกษา

การจัดทำ Working Group ทางวิชาการของนักศึกษา
สวัสดีครับ เนื่องจากอาจารย์ได้แนวความคิดว่าคงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งถ้าเราได้ระดมความคิด ความรู้และความสามารถในทางวิชาการ วิชาชีพและการปฏิบัติงานทางกฎหมายโดยร่วมมือกัน สิ่งที่อาจารย์คาดหวังในการรวมกลุ่มนี้ก็คือ
๑ การรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือกันในหมู่รุ่นพี่รุ่นน้องคณะนิติศาสตร์ ทั้งท่าพระจันทร์ รังสิตและลำปางเพื่อให้คำปรึกษากับน้องๆในแนวทางการศึกษาและรสนิยมทางนิติศาสตร์ที่คล้ายคลึงกัน
๒ การรวมกลุ่มเพื่อจัดเสนอผลงานวิชาการและรวมกลุ่มความสนใจเฉพาะทางของนักศึกษาเอง เช่น
ก)กลุ่มที่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายกับเศรษฐศาสตร์
ข) กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
ค)กฎหมายมหาชนเศรษฐกิจในเชิงการวางนโยบายแห่งรัฐ
ง)การใช้กฎหมายภาคปฏิบัติและกฎหมายทางเลือกใหม่ๆ
เพื่อให้การรวมกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาจารย์จะสนับสนุนต่อเนื่องด้วยการจัดให้มีที่ปรึกษาที่เป็นนักกฎหมายภาคปฏิบัติ เช่น ผู้พิพากษา,อัยการ,ทนายความ,ที่ปรึกษากฎหมาย,นักกฎหมายเชิงนโยบาย ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น นักศึกษาที่ช่วยเหลืองานวิชาการของอาจารย์ก็จะได้รับการแนะแนวในเรื่องการหาทุนเพื่อศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไป
นศ ที่มีความสนใจในเรื่องเหล่านี้สามารถจัดทำ working group และเสนออาจารย์มาที่ bhumindr_lawman@hotmail.com

Tuesday, November 17, 2009

นิติศาสตร์ชายทุ่งจากรังสิตถึงห้างฉัตร...เสียงคำรามของลูกเสือเหลือง

นิติศาสตร์ชายทุ่งจากรังสิตถึงห้างฉัตร...เสียงคำรามของลูกเสือเหลือง
คงจะเริ่มจากความประทับใจบางอย่างที่เกิดขึ้นจากวันที่ผมได้ยินเสียงบูมนิติฯของนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ปีนี้เป็นปีแรกที่เราขยายคณะไปสู่ลำปางภาคปกติ จากวันแรกที่ผมมาที่นี่ทำให้ผมหวนคิดไปถึงวันที่เริ่มเรียนปีแรกที่รังสิตเลยทีเดียว ที่ที่ทุกคนโหยหาและรอคอยภาพวาดแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย สัญลักษณ์มากมายถูกอุปโลกน์ขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา เช่นว่าลูกแม่โดม ฯลฯ แต่ความโหยหาอุดมการณ์ดังกล่าวกลับว่างเปล่าเหลือเกิน.....ทุ่งรังสิต ตึกเรียนอีกไม่กี่ตึก.....นี่มันอะไรกันหว่า (ผมนึกในใจ)..........
ในขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆมีสวัสดีการเพียบพร้อม แล้วทำไมเราไม่มีอะไรเลย ท่าพระจันทร์ก็ไม่ต่างกันมากนัก พื้นที่เท่าโรงเรียนมัธยมรอบสนามฟุตบอล ป้ายมหาวิทยาลัยเพียงเล็กน้อย แล้วอะไรหว่าที่เป็นโรงงานผลิตรัฐบุรุษมากมาย ผลิตผู้ชี้นำสังคมไทยมาหลายต่อหลายรุ่น ผมคิดในใจ......
สี่ปีแห่งการแสวงหาก็ทำให้ค้นพบว่าไม่ใช่ความเจริญทางวัตถุ ไม่ใช่พื้นที่ใช้สอย ความเล็กของท่าพระจันทร์นี่เองที่เป็นจุดเด่นแห่งการแสวงหาความรู้และมิตรภาพ เนื่องจากเราได้เจอกันแทบทุกวัน แทบทุกคณะ ไม่มีแบ่งแยก ลูกมหาเศรษฐี ลูกมนุษย์เงินเดือน ลูกชาวนาถูกผสมอย่างกลมกลืมไม่มีแบ่งแยกเพราะเหตุว่าท่าพระจันทร์นั้นเล็ก จึงไม่มีใครสามารถนำรถมาอวดมั่งอวดมีกันได้
ภาพแห่งเสรีชนและความเสมอกันนี้ไม่ปรากฏต่อไปอีกแล้วที่ท่าพระจันทร์(ที่ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของชนชั้นกระฎุมพีไปแล้ว) แต่ไปปรากฏในที่ที่ผมคาดไม่ถึง......รังสิตในอดีต......ลำปางในปัจจุบัน สองเท้าติดดิน คีบแตะ กลางทุ่งไม่ต่างจากพวก ๕ ย (ผมยาว เสื้อยืด กางเกงยีน สะพายย่าง รองเท้ายาง) ไม่ว่าจะเป็นแนวนโยบายให้นักศึกษาเข้าใจสังคมไทยรากหญ้า ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรสหวิทยาการและความใกล้ชิดของอาจารย์และลูกศิษย์ที่ไม่มีช่องว่างแบบขุนนางกับบ่าวดังเช่นมหาลัยในเมืองหลวง
ความรู้สึกดีดีนี้เป็นของขวัญแก่นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง รุ่นแรกทั้งอาจารย์และนักศึกษา ที่เรียกว่าเป็นของขวัญก็เนื่องจากว่าพวกเรา(อาจารย์)ได้ปฏิญาณกับนักศึกษาในวันบายศรีสู่ขวัญว่าจะปฏิบัติหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์ที่ดี จะเป็นดั่งเทียนเล่มหนึ่งที่จุดประกายทางความคิดให้สว่างไสว จะเป็นโรงงานผลิตฟันเฟืองแห่งปัญญาชนที่มีคุณภาพดี เพื่อไปหมุนขับเคลื่อนสังคมไทยให้เจริญงอกงาม ผู้เขียนเชื่อว่าการที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เปิดสอนในส่วนภูมิภาค เช่นที่จังหวัดลำปางนี้ เป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษา โอกาสทางการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในสังคมของเราที่จะทำให้เกิดการพัฒนาต่อไปในส่วนท้องถิ่นของประเทศ
ผมได้ยินเสียงร้องของเหล่าลูกเสือเหลือง...........เสียงคำรามที่รอวันเติบโตเป็นใหญ่ ไม่ใช่แค่นักกฎหมาย ทนายความ ผู้พิพากษา อัยการเท่านั้น แต่เป็นผู้เปลี่ยนแปลงเมืองไทย ผู้ร่าง ผู้ใช้ ผู้นำเมืองไทยให้พ้นจากสภาวะงมงายและขาดประชาธิปไตยเช่นนี้